เนียร์ อียาร์ กูรู สตาร์ทอัพ แนะเทคนิคเติบโตแบบก้าวกระโดด

จากหนังสือ Hooked: How to build Habit-Forming Products ที่ได้ถอดรหัสแอพดังๆที่มีผู้ใช้ซ้ำบ่อยๆ ว่าต้องมี 4 ขั้นตอนคือ Trigger (การกระตุ้น) Action (การกระทำ) Reward (ผลตอบรับ) และ Investment (การลงทุนลงแรงต่อ) ...ซึ่งก็มีสตาร์ตอัพไทยที่นำไปใช้แล้ว ได้แก่ ...

สตาร์ทอัพหน้าใหม่ทั่วโลกมีเพียง 10% เท่านั้นที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งปัจจัยที่สำคัญของ 10% ที่เติบโตนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างพฤติกรรมให้กลับมาใช้ซ้ำ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะทำให้สินค้า บริการประสบความสำเร็จมากที่สุด ตัวอย่างเช่น Facebook, Instagram และสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่มีกระบวนการทำงานที่สร้างกลไกให้ผู้ใช้งานกลับมาใช้งานซ้ำอย่างต่อเนื่อง

โดยเทคนิคพื้นฐานที่ทำให้หลายๆ บริษัทยักษ์ใหญ่ประสบความสำเร็จ มีพื้นฐานมาจาก เทคนิคของเนียร์ อียาร์ กูรูสตาร์ทอัพระดับโลกและผู้เขียนหนังสือ Hooked: How to build Habit-Forming Products ที่ได้ถอดรหัสพฤติกรรมการใช้ซ้ำ ที่ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน 1.Trigger (การกระตุ้น) 2.Action (การกระทำ) 3. Reward (ผลตอบรับ) 4. Investment (การลงทุน) เทคนิคสำหรับสตาร์ทอัพ จากกูรูระดับโลก

สตาร์ทอัพไทยประยุกต์ใช้ Hooked Model จนประสบความสำเร็จ

ในเวทีเฟ้นหาสตาร์ทอัพอย่าง dtac Accelerate ก็ได้มีสอนการประยุกต์ใช้เทคนิค hooked Model กับธุรกิจ ซึ่งหนึ่งในรายที่ประสบความสำเร็จกับการนำไปใช้คือ Finnomena ฟินเทคสตาร์ทอัพเพื่อการลงทุน จาก dtac Accelerate batch 4

ชยนนท์ รักกาญจนนันท์ (ขวา) ผู้ร่วมก่อตั้ง Finnomena กล่าวว่า Finnomena มีอัตราการเติบโต 10 เท่า จากการใช้เทคนิค Hooked ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นให้คนเข้ามาลงทุนในแพลตฟอร์มการลงทุน NTER ซึ่งผู้ใช้บริการจะได้ Reward จากคำแนะนำการลงทุน และก่อให้เกิดการลงทุนต่อเนื่อง

โดยจากความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา ปัจจุบัน Finnomena สามารถระดมทุนได้ถึง 1.2 พันล้านบาท และคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ 6 พันล้านบาทหรือเติบโตถึง 5 เท่าภายในสิ้นปีนี้

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับสตาร์ทอัพรายใหม่

ทั้งนี้หลังจากที่เนียร์ อียาร์เข้ามาเป็นวิทยากรให้กับ dtac Accelerate เป็นปีที่ 4 ก็ได้เห็นพัฒนาการวงการสตาร์ทอัพของไทยไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งคุณภาพของสตาร์ทอัพหน้าใหม่และระบบนิเวศ (Startup Ecosystem) ที่เอื้อต่อการเติบโตของเหล่าสตาร์ทอัพในอนาคต และได้เผย 5 เคล็ดลับในการทำสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้

1.ตลาดของสินค้าและบริการนั้นมีขนาดที่ใหญ่พอที่จะสามารถทำให้เติบโตได้

2.การรู้ความต้องการของบริโภคอย่างแท้จริง และตอบสนองความต้องการนั้นได้

3.เข้าใจจิตวิทยาของลูกค้า หลักความคิด การตอบโจทย์ได้อย่างไร การสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับสินค้าและบริการ

4.การสร้างจุดเด่นที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ เพื่อเป็นเอกลักษณ์เมื่อมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้น

5.ผู้ร่วมก่อตั้งที่มีทัศนคติเดียวกัน เนื่องจากต้องใช้เวลา เข้าใจร่วมกัน รวมถึงเข้าใจปัญหาและผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน

กูรูระดับโลก มาเผยเคล็ดลับขนาดนี้ ทั้งยังมีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จหลายราย ซึ่งถ้าลองสังเกตดูดีๆ แล้ว ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแต่สตาร์ทอัพเท่านั้น ธุรกิจอื่นๆ ก็ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยเช่นกัน

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

ธนาคารกรุงเทพรับสมัครสตาร์ตอัพ เข้าโครงการ Bangkok Bank InnoHub Season 2

ธนาคารกรุงเทพร่วมกับบริษัท Nest ที่มากด้วยประสบการณ์ด้านสตาร์ทอัพกลุ่มฟินเทค ค้นหาธุรกิจสตาร์ทอัพ 5 กลุ่ม …