อังกฤษวิจัยพบ Google กับ Facebook แทบจะผูกขาดตลาดโฆษณาบนโลกออนไลน์ โดยครองส่วนแบ่งเม็ดเงินค่าโฆษณาดิจิตัลรวมกันถึงราว 80% โดยที่กฎหมายในปัจจุบันยังจัดการไม่ได้
โดยในอังกฤษและสหราชอาณาจักรตลอดปี 2019 ที่ผ่านมานั้น มีเม็ดเงินไหลเวียนราว 14 พันล้านปอนด์ (ราว 5.4 แสนล้านบาท)
ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจโดยหน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของสหราชอาณาจักร (Competition and Markets Authority หรือ CMA)
ทั้งนี้ Google กวาดส่วนแบ่งโฆษณาประเภท search (บนผลเสิร์ช) ราว 90% จากมูลค่าตลาดรวม 7.3 พันล้านปอนด์
ส่วน Facebook ครองสัดส่วนโฆษณาแบบป้ายออนไลน์ (display ads) ราว 50% จากมูลค่าตลาด 5.5 พันล้านปอนด์
หน่วยงาน CMA มองว่าระบบโฆษณาใน Google และ Facebook ช่วยธุรกิจขนาดเล็กให้โปรโมทกิจการได้ง่ายก็จริง แต่การที่ทั้งสองบริษัทครองส่วนแบ่งมากไป ทำให้การแข่งขันน้อยลง มีผลเสียก็คือ sme ทั้งหลายก็มีตัวเลือกน้อยลง
…ซึ่งสภาพเกือบผูกขาดนี้ เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆด้วย รวมถึงไทย
และแม้จะครองตลาดเบ็ดเสร็จขั้นนี้ แต่ยักษ์ใหญ่ทั้งสองยังพยายามครองตลาดเพิ่ม เช่นการที่ Google จ่ายเงินให้ Apple ถึงปีละนับพันล้านปอนด์เพื่อให้ได้เป็น default search engine บน iOS ซึ่งกฎหมายธุรกิจในอังกฤษก็ยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้
ฉะนั้นหน่วยงาน CMA จึงจะตั้งทีม “Digital Markets Taskforce” เพื่อระดมสมอง ประสานงาน นำเสนอ และผลักดันให้รัฐบาลอังกฤษออกมาตรการกำกับดูแลตลาดโฆษณาออนไลน์ภายในปีนี้ให้ได้
ข่าวจาก
gov.uk/government/news/new-regime-needed-to-take-on-tech-giants
ภาพจาก
marketingland.com/emarketer-facebook-dominate-15-9-pct-digital-ad-spend-growth-2017-209045
