Facebook Live ทำดีให้โดน

mtk2-1

ตอนนี้กระแส Facebook Live มาแรงมาก หลังจากเปิดให้สมาชิกแบบเพจเริ่มใช้บริการนี้ได้ ต่อด้วยบุคคลทั่วไปที่เริ่ม Live ได้ และล่าสุดเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา Facebook ก็ได้เปิด Live API เพื่อเชื่อมต่อกล้องและระบบถ่ายทำจากภายนอกให้เข้าไปแพร่ภาพผ่านระบบ  Facebook Live ได้แล้ว ก็ยิ่งทำให้ทุกคนมองระบบนี้แบบตาเป็นมัน

mtk2-3

ทำไมทุกคนต้องมอง Facebook Live
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า จะทำสื่อให้สำเร็จก็ต้องทำในที่ที่มีคน ที่แบรนด์สินค้าเสียเงินมากมายให้กับสื่อ ก็เพราะว่าสื่อนั้นมีคนติดตาม มีคนดู ที่ผ่านมามี YouTube Live ที่ทำถ่ายทอดสดได้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ใช้ง่ายสำหรับคนทั่วไป เพราะต้องใช้อุปกรณ์ถ่ายทอดสดโดยเฉพาะ และยังต้องอาศัยเครือข่ายอื่นๆ เพื่อกระจายข่าวให้คนเข้าไปชม นอกจากนี้ ก็มีแอพฯ ถ่ายทอดสดอย่าง Meerkat หรือ Periscope และที่กำลังดังในหมู่วัยรุ่นอยู่ตอนนี้คือ Bigo ก็เป็นกลุ่มเฉพาะออกไป ซึ่งการทำแอพฯ แยก หรือใช้แพลตฟอร์มใหม่ๆ อาจจะดูดี มีลักษณะเฉพาะที่ต้องการ แต่ถ้าพูดถึงความเป็นที่นิยม การเข้าถึงผู้ใช้ได้ครอบคลุมทั้งหมด ก็ไม่มีแพลตฟอร์มไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า Facebook แล้ว ด้วยตัวเลขล่าสุดมีผู้ใช้ 1,654 ล้านคนต่อเดือน

นอกจากจำนวนผู้ใช้ที่จำนวนมากและหลากหลายของ Facebook แล้ว ยังมีเครื่องมือสนับสนุน (และเสียเงิน) อีกมากมาย ทั้งการโปรโมตโพสต์ บูสท์โพสต์ รวมถึงผู้ชมที่ชอบการถ่ายทอดสดของเราก็สามารถแชร์ Live สดๆ นั้นไปยังไทม์ไลน์ของตัวเองให้เพื่อนเห็นได้อีก แถมเฟซบุ๊กยังมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการถ่ายทอดสด พร้อมเขียนคอมเมนต์กันสดๆ ด้วย

สรุปคือ ผู้ใช้จำนวนมาก + เทคโนโลยีที่เปิดกว้าง + ระบบสนับสนุนให้เกิดการกระจายของเนื้อหา ทำให้นาทีนี้การ Live บน Facebook น่าจะได้ผลมากที่สุดแล้ว

e209_1

ฉบับที่ 209 เดือนพฤษภาคม

Digital Literacy เรื่องครอบครัว รู้ทันดิจิทัล

ผลกระทบของ Facebook Live ที่มีต่อสื่อเดิม
หลายคนบอกว่าการมาของ Facebook Live ทำให้อำนาจของสื่อเดิมอย่างทีวีลดลงไปอีก คนข่าวเดิมจะยิ่งหมดอำนาจ ซึ่งต้องยอมรับว่าจริง เมื่อมี  Facebook Live แล้ว ทุกคนที่มีมือถือและอินเทอร์เน็ตก็สามารถถ่ายทอดสด เล่าเรื่องราวจากสถานที่จริงที่อยู่ใกล้ตัวได้เร็วกว่านักข่าว ถึงแม้เครืองไม้เครื่องมืออาจจะไม่เท่านักข่าวตัวจริง แต่การที่เป็นคนในพื้นที่ และมีความอยากจะสื่อสาร ก็ทำให้สร้างเสน่ห์ที่แตกต่างจากคนข่าวเดิมไม่ยาก แต่แนวโน้มการสร้างสื่อ Live ผ่านอินเทอร์เน็ตก็สร้างโอกาสใหม่ให้คนกลุ่มหนึ่งขึ้นมาด้วย

กลุ่มแรกคือคนโปรดักชั่น
ในเมื่อตอนนี้ใครๆ ก็ Live ได้ ใช้มือถือธรรมดาก็ถ่ายทอดสดได้ คนดูอยากดูอะไรก็เลือกได้ คำถามต่อมาคือ แล้วใครจะอยากดู Live ของเรา ถ้าไม่ใช่ไปอยู่ในเหตุการณ์สำคัญที่หาดูที่ไหนไม่ได้ หรือโชว์เซ็กซี่ Live ที่น่าดูถึงจะเปลี่ยนมายิงผ่าน Facebook แต่มันก็เป็นศาสตร์ที่คนทำทีวีฝึกฝนกันมานาน ต้องใช้ทีมงานไม่น้อย (เช่น ต้องการถ่ายทอดสดแบบมี 2 มุมภาพ ก็ต้องใช้ตากล้อง 2 คน คนเลือกภาพอีก 1 คน ยังไม่รวมคนมิกซ์เสียง โปรดิวเซอร์ พิธีกร) นอกจากนี้ ยังต้องมีการวางแผนการผลิต มีการวางโครงเนื้อหา ไม่ใช่จะนั่งพูดกันไปอย่างเดียว และยังต้องใช้อุปกรณ์ที่ดีอยู่ดี ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำงานโปรดักชั่นไม่น้อยก็มีการปรับตัว เริ่มใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการถ่ายทอดสดแล้ว

กลุ่มต่อมาคือ บรรณาธิการ
ด้วยระบบของ Facebook ทำให้ยุคนี้เรารู้ข่าวที่เราสนใจ เรารู้ข่าวที่เพื่อนเราสนใจ แต่เราไม่ค่อยรู้ข่าวนอกเหนือจากนี้เลย ซึ่งต่างจากยุคที่ผู้คนเปิดทีวีเป็นเพื่อน ได้ฟังทั้งเรื่องที่สนใจและไม่สนใจไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นความรู้รอบตัว ไม่ใช่รู้เฉพาะสิ่งที่เราสนใจอย่างเดียว

เราจึงเห็นว่า ถ้าเพจหรือใครที่สามารถสรุปข่าว คัดข่าวที่น่าสนใจมาแชร์ต่อได้ดี ให้ความเห็นที่น่าฟัง จึงได้รับความสนใจจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อยากรู้ความเป็นไปของโลก ซึ่งจริงๆ แล้วหน้าที่นี้ก็คือ หน้าที่ของบรรณาธิการข่าวนั้นเอง แต่ด้วยเทคโนโลยีทำให้ทุกคนที่มีความสามารถก็เป็นบรรณาธิการข่าวได้ และคนกลุ่มนี้เองที่สามารถคัดการถ่ายทอดสดที่น่าสนใจเพื่อเผยแพร่ต่อได้

เทคโนโลยีตอนนี้พร้อมจะเข้ามา Disrupt สิ่งดั้งเดิมที่เคยมีมาเสมอ ถ้าอยากรอดในกระแสก็ต้องปรับตัวให้ทัน

ทิปสำหรับการทำ Facebook Live ให้ประสบผล

  • กำหนดเวลาที่จะถ่ายทอดสด แล้วประชาสัมพันธ์ให้ผู้ชมรู้ก่อน
  • ต้องมั่นใจว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตดี
  • เขียนข้อความอธิบายให้ชัดเจนว่าจะถ่ายทอดสดเรื่องอะไร
  • ขอร้องให้ผู้ชมกดติดตามการ Live
  • ทักทายคนที่เข้ามาคอมเมนต์ อ่านข้อความ อ่านชื่อบ้าง สร้างอารมณ์ร่วม
  • ถ่ายทอดสดอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้ยาวพอที่จะเรียกคนดูได้

mtk2-2

ตอนนี้ใครๆ ก็ถ่ายทอดสดได้ แต่จะทำให้น่าดูมันก็ไม่ใช่แค่เปิดมือถือ Live อย่างเดียว มันต้องลงทรัพยากรให้งานออกมาดี หรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำเนื้อหาให้แตกต่าง ให้ความรู้ ถึงจะมีคนดูคนแชร์

เทคนิคการทำ Facebook Live ด้วยอุปกรณ์ภายนอก
จบเรื่องราวการตลาดและสื่อสารมวลชนแล้ว มาต่อกันที่เรื่องราวของห้องโสตทัศนูปกรณ์สั้นๆ ว่าเราจะทำ Facebook Live โดยใช้กล้องดีๆ ที่ไม่ใช่เอาสมาร์ทโฟนมาถ่ายได้อย่างไร

ส่วนประกอบที่ต้องใช้สำหรับการทำ Live ระดับเทียบเท่าออกอากาศมีดังนี้

  • คอมพิวเตอร์ จะเป็น PC หรือ Mac ก็ได้ แต่ควรจะไม่เก่ากว่า 2 ปี และใช้หน่วยประมวลผล Intel Sandy Bridge ขึ้นไป เพราะงานถ่ายทอดสดใช้พลังประมวลผลมาก
  • ซอฟต์แวร์ถ่ายทอดสด Wirecast ที่มีให้ใช้ทั้ง Windows และ Mac  (ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $495)
  • กล้องที่สามารถส่งสัญญาณภาพสดออกมาได้ เช่น กล้อง Mirrorless ที่มีพอร์ต HDMI ซึ่งสามารถทดสอบได้โดยการหาสายภาพต่อออกทีวี ถ้าสามารถส่งภาพสดจากกล้องขึ้นจอทีวีได้ และสามารถปิดตัวหนังสือรายละเอียดการถ่ายภาพไม่ให้ไปขึ้นบนจอทีวีได้ ก็สามารถใช้ถ่ายทอดสดได้
  • ชุดไมโครโฟนสำหรับติดกล้อง ถ้าต้องการให้เสียงพูดคมชัด
  • กล่องรับสัญญาณจากกล้องเข้าคอม ถ้ามี 2 กล้อง ก็ต้องใช้ 2 กล่อง ซึ่งแนะนำ Blackmagic Intensity Shuttle (USB3) สำหรับ Windows และ Blackmagic UltraStudio Mini Recorder (Thunderbolt) สำหรับ Mac

ถ้าไม่มีอุปกรณ์อะไรอยู่เลย ก็ต้องใช้เงินเกือบแสนบาทสำหรับอุปกรณ์ชุดนี้ และยังไม่รวมราคาค่าอินเทอร์เน็ตสำหรับการถ่ายทอดสด แต่ก็สามารถราคาลงมาได้ ถ้าใช้กล้องน้อยลง หรือใช้กล้อง Webcam แทนไปเลย หรือรอดูโปรแกรมอื่นๆ ที่ถ่ายทอดสดได้แต่ราคาถูกกว่า Wirecast

ระบบนี้มีซอฟต์แวร์ Wirecast เป็นศูนย์กลาง ซึ่งความสามารถหลักของ Wirecast คือ

  • เลือกภาพที่จะถ่ายทอดสดจากกล้องต่างๆ ได้
  • เลือกวิดีโอหรือภาพในคอมพิวเตอร์ไปออกอากาศสดได้ (หมายความว่าใส่คลิปโฆษณาได้)
  • ขึ้นข้อความหรือโลโก้ได้
  • ถ่ายทอดสดได้ทั้ง Facebook Live และ YouTube Live
  • สามารถใช้แอพฯ Wirecast Cam บน iPhone เพื่อถ่ายทอดภาพแบบไร้สายมาออกอากาศสดได้

ใครที่สนใจก็ลองดาวน์โหลดเวอร์ชั่นทดลองใช้มาทดสอบกับอุปกรณ์ที่มีอยู่ก่อน แล้วค่อยๆ ขยับขยายต่อไปในอนาคตได้ครับ

สุดท้ายนี้ก็ต้องบอกว่า ตอนนี้ใครๆ ก็ถ่ายทอดสดได้ แต่จะทำให้น่าดูมันก็ไม่ใช่แค่เปิดมือถือ Live อย่างเดียว มันต้องลงทรัพยากรให้งานออกมาดี หรือใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำเนื้อหาให้แตกต่าง ให้ความรู้ ถึงจะมีคนดูคนแชร์ ถ้าเราหรือเพจถ่ายทอดสดบ่อยๆ แต่ผู้ชมยอมเสียเวลามานั่งดูแล้วไม่ได้สาระอะไร ไม่ตลก สุดท้ายผู้ใช้ก็จะเมินการถ่ายทอดสดของเรา ซึ่งเมื่อคนจำภาพถ่ายทอดสดติดลบของเราไปแล้ว ก็คงยากไม่น้อยที่จะเรียกความสนใจให้กลับมาชมได้อีก

Contributor

eka-x

Eka-X

เอกพล ชูเชิด

วุ่นวายกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เยาว์วัย จนเริ่มมีอายุเยอะก็จับคีย์บอร์ดหาเลี้ยงชีพด้วยงานเขียนด้านเทคโนโลยีมาตลอด ทั้งยังเปิด Aofapp.com เว็บไซต์ส่วนตัวที่เล็กมากๆ เพื่อเขียนรีวิวแอพฯ มือถือเรื่อยๆ ในเวลาว่าง ถึงจะสาหัสกับงานขนาดไหนก็ยังเขียน แชร์ บ่นไปเรื่อยใน Twitter

Twitter: Twitter.com/eka_x

You may be interested in

Latest post from Facebook

Related Posts

รู้จัก “Facebook Watch Party” ชวนเพื่อน Groups ดูคลิป-ดูไลฟ์ ไปพร้อมกัน

Facebook Watch เปิดตัวตั้งแต่ปีก่อน แต่มีเฉพาะในอเมริกา และผู้ใช้แค่ไม่กี่คนในประเทศอื่นๆ แต่ก็มาเปิดกว้างทั่วโลกให้ทุกคนแล้วในเดือนนี้